ปรากฏการณ์"ตูน"
CSR.นอกตำรา
ใต้สุดยันเหนือสุดของประเทศ ๒,๐๐๐ กว่ากิโลฯ เป้าหมาย ๗๐๐ ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสนับสนุน แก่โรงพยาบาล นำไปใช้ดูแลผู้ป่วยยากไร้ต่อไป
“อาทิวราห์ คงมาลัย” หรือ "ตูน บอดี้แสลม" คนเล็กๆคนหนึ่งที่หัวใจยิ่งใหญ่มาก...!
ปรากฏการณ์ "ตูน" สะท้อนภาพความเป็นจริงของชีวิต ได้อย่างลึกซึ้ง หลายคนเลือกที่จะซื้อยามากินเองเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าไม่หง่อมจริงๆก็คงไม่ไปโรงพยาบาล
แออัด
รอนาน
รอหมอ
ถูกส่งต่อไปที่แออัดกว่า
ฯลฯ
เหล่านี้คือสาเหตุที่คนจำนวนมากไม่เข้ารับการรักษาพยาบาล ตั้งแต่ต้นๆของความผิดปกติใน ร่างกาย
เมื่อเครื่องมือดีๆ ยาดีๆอยู่ที่ รพ.เอกชนเสียหมด แต่ รพ.รัฐฯกลับอัตคัดเสียเหลือเกิน ในที่นี้เราจะก้าวพ้นไม่วิจารณ์การบริหารจัดการงบประมาณของรัฐ แต่อยากชวนให้โพกัสไปที่ ความเปลี่ยนแปลงทียิ่งใหญ่ ล้วนมีจุดเริ่มจากสิ่งเล็กๆทั้งสิ้น
เมื่อปีที่ผ่านมา"ตูน"ออกวิ่งเพื่อหาทุนช่วยเหลือ รพ.บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์มาแล้วครั้งหนึ่ง ได้เงินกว่า ๘๐ ล้านบาท ( กรุงเทพฯ - บางสะพาน ๔๐๐ กว่ากิโลฯ ๑๐ วัน)
จำได้ว่ามีบทสัมภาษณ์หนึ่งของตูน ที่เล่าถึงที่มาของการออกวิ่ง ครั้งนั้นว่า
แรกๆ รพ.บางสะพานจะจัดงาน วิ่งมาราธอน แล้วจะเชิญตูนในฐานะที่มีบ้านอีกหลังอยู่ที่บางสะพาน ถือเป็นคนบางสะพาน มาร่วมกิจกรรมด้วย
หลังได้รับการประสาน "ตูน"ตอบรับเข้าร่วมด้วยช่วยวิ่ง แต่จะวิ่งในแบบของตูน เพื่อรพ.จะได้ไม่ต้องสิ้นเปลืองต้นทุนในการจัดงาน เขาจึงออกวิ่งจากกรุงเทพฯไปบางสะพาน และเชิญชวนคนไทย บริจาคช่วยเหลือ รพ.บางสะพาน
นั่นคือจุดเริ่มเล็กๆที่กลายเป็น เป้าหมายที่ใหญ่กว่าในวันนี้...
สิ่งนี้สะท้อนอะไร ทำไมถึงมีวันนี้ คำตอบคือปัญหาเรื่องความสุขภาพ ระบบบริการสาธารณสุขที่ไม่เพียงพอ มันเป็นเรื่องใหญ่สะสมมานาน ยากจะแก้ได้ในระยะเวลาอันสั้น
ก้าวต่อไปที่ใหญ่กว่าจึงเกิดขึ้น กับการวิ่งที่มีระยะทางยาวที่สุดจึงเกิดขึ้น "ก้าวต่อก้าว" จึงกลายมาเป็นจิมมิกในการสื่อสารที่จุดติดอย่างรวดเร็ว
"ก้าวต่อก้าว" เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงชื่นชมปนเสียงตรงข้าม แต่ไม่สามารถบั่นทอนความมุ่งมั่นในใจได้
จากวันเริ่มวิ่ง (๑ พ.ย.๒๕๖๐) จนถึงวันนี้ มีผู้ร่วมสมทบทุนให้มากบ้าง น้อยบ้างตามแต่กำลังมีทะลุหลักร้อยล้านไปแล้ว
ปรากฏการณ์ “ตูน”
อย่าเพียงแค่ช่วยส่งกำลังใจ และร่วมด้วยช่วยลงขันให้บรรลุเป้า ๗๐๐ ล้านบาทเท่านั้น
แต่อยากให้มองปรากฏการณ์นี้ เป็นองค์ความรู้ที่ต้องศึกษาต่อยอดไปเรื่อยๆ
อย่างน้อยจะเห็นชัดเจนว่า ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เริ่มจากจุดเล็กๆ
สร้างจากจุดเล็กๆให้แข็งแกร่ง แล้วความยั่งยืนจะตามมา
มองในมุมกิจการขนาดใหญ่ของประเทศ ก็มีการทำงานเพื่อสังคม หรือ Corporate Social Responsibility : CSR ออกมามากมายหลายรูปแบบ แต่คำถามคือทำไมไม่เกิดพลัง ทำไม่ไม่มี Impact เท่ากับสิ่ง ที่ตูนทำ
สิ่งที่ตูนทำถือได้ว่า นี่คือ CSR นอกตำรา เป็นการขึ้นงานที่เริ่มจากจุดเดียว ว่าด้วยเรื่องการขาดแคลนเครื่องมือทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยที่ยากไร้ไม่ได้รับการบริการด้านสุขภาพที่ดีพอ มองเห็นปัญหาที่ชัดเจน แล้วหาทางออกแบบง่ายๆ คนป่วยแออัด ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ก็หาอะไรมาเติมให้ตรงจุด
ตูนมีวิธีคิดแบบง่ายๆ แต่บริสุทธิ์ที่ใจ งดงามที่การกระทำ จึงส่งพลังอย่างมหาศาล เชื่อว่าเป้า ๗๐๐ ล้านคงทะลุก่อนถึงปลายทาง ด้วยซ้ำ
แต่ไม่อยากให้โฟกัสกันแค่พียงช่วยลุ้นทะลุเมื่อไร
อยากให้สังคมหันกลับมามองว่า จะช่วยกันดูแลสังคมได้อย่างไร
เริ่มจากสิ่งเล็กๆเหมือนตูนทำ แล้วค่อยขยายขึ้นไป ที่สำคัญอย่าทำคนเดียว ช่วนเพื่อนพ้องน้องพี่มาร่วมด้วย แล้วจะเกิดพลังที่ยิ่งใหญ่ เหมือนกับภาพที่เห็นคนไทยต่างพร้อมใจกันออกมาให้กำลังใจตามรายทาง ต่างมอบเงินสมทบทุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
เหมือนกันกับการทำงาน CSR อย่าทำคนเดียว สร้างมิตรไว้เยอะๆทำงานร่วมกัน โฟกัสปัญหาให้ชัดแล้วจัดโปรแกรมแก้ปัญหาออกมาร่วมกัน วางแผนยาวๆ มองเป้าหมายเป็นตัวตั้งแล้วค่อยๆเดินไป อย่าตีกรอบงานด้วยปฏิทินงบประมาณ
ค่อยๆทำไปคนละไม้คนละมือ สังคมจะได้น่าอยู่ขึ้นครับ
"วิ่งไปเถิดตูน คือชัยชนะของคนไทย
วิ่งไปเถอะตูน คือชัยชนะแห่งความสามัคคี"
ขออนุญาตหยิบประโยคจบของ เพลง "เดิมพัน ๒๐๐๐ กิโลฯ"
ของพี่แอ๊ด คาราบาว ที่เขียนเพลงให้กำลังใจหลานชาย "ตูน บอดี้แสลม" มาปิดท้ายบทความนี้
เป็นกำลังใจครับตูน
*****
ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ ข่าวสด : www.khaosod.co.th
และเพลงเดิมพัน ๒,๐๐๐ กิโลฯ : Carabao Channel
https://www.youtube.com/watch?v=2z8AASBbbIo&feature=share
