“เขาใหญ่”เสี่ยง ! เสียว !
หลุดบัญชีมรดกโลกผืนป่าตะวันออก”
เมื่อการคมนาคมพาดผ่านผืนป่า และผืนป่าแห่งนั้นคือผืนป่าที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก แต่ด้วยเงื่อนไขของความจำเป็น ทำให้ต้องขยายถนน ทางหวงแผ่นดินหมายเลข 304
คำตอบของความจำเป็นคือความสะดวกสบายในการสัญจร ช่วยระบายรถในช่วงเทศกาล แต่ต้องแลกด้วย ความเสี่ยงอันสุดเสี่ยวที่จะต้องหลุดจากบัญชีมรดกโลกแห่งผืนป่า แม้จะยังไม่ถึงจุดนั้นแต่ภาวะอันอึมครึม ค่อยๆ คืบคลานมาทุกขณะ
โอ๊ย.......มันจะติดอะไรกันหนักหนา?...................เสียงแฟนเพื่อนบ่นเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้.......เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเดินทางบนถนนสาย 304 เป้าหมายในครั้งนี้ ......แฟนเพื่อนอยากไปวังน้ำเขียว...เพื่อไปหาของกินอร่อยๆ ที่ขึ้นชื่อของอำเภอวังน้ำเขียว....นั่นคือ.....พุทรานมสด....ครับ......
ขอบคุณภาพ : http://www.thairath.co.th
แต่! เส้นทางในการเดินทางไปวังน้ำเขียวนั้น.......ทางเพื่อนๆ พากันวางแผนในการเดินทางในครั้งนี้ โดยใช้เส้นทางนครนายก ปราจีน และไปออกทางหลวง 304 กบินทร์บุรี..... และวังน้ำเขียว... โอ้ว......เส้นทางในการไปนั้น ขับรถเข้าทางหลวงหมายเลข 304 นั้น..........ผมคิดว่า...ข้างหน้าต้องเกิดอุบัติเหตุรถชนกันแน่นอน!
แต่มันไม่ใช่???? รถติดมากมองด้วยสายตา ยาวหลายกี่โลมาก ....อัตราความเร็วของรถไม่เกิน 40 กม./ชม. รถค่อยๆ เคลื่อนตัว......ได้ช้ามาก......และแล้ว....สิ่งที่ประจักษ์แก่สายตาของผมกับเพื่อนๆ คือ การขยายถนน 304 ให้เป็น 4 เลน เพื่อการจราจรที่คับคั่งบนถนน 304 ช่วงกบินทร์บุรีกับเขาปัก......โดยทางหน่วยงานของภาครัฐ กรมทางหลวง กล่าวอ้างว่า มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเส้นที่คดเคี้ยวอันตรายซึ่งเป็นอันตรายกับมนุษย์และสัตว์ป่า.....รวมทั้งเป็นการทำเส้นทางการเชื่อมผืนป่าระหว่างเขาใหญ่กับอุทยานแห่งชาติทับลานอีกด้วย.......แต่ในใจ..ผมคิดว่า ....อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ต้องหลุดจากการมรดกโลกแน่นอน!!! เพราะว่า จำนวนป่าไม้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง! มีการขยายถนนอันเป็นพื้นที่บ้านของสัตว์ป่า รุกล้ำเส้นทางการหากินของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ไม่ว่า จะเป็น กระทิง กวาง งูจงอาง เหล่านี้ เลยลองถามเพื่อนว่า “ถ้าหากทำแบบนี้ จะหลุดจากการเป็นผืนป่ามรดกโลกหรือเปล่าหวา?” เพื่อนที่นั่งไปด้วยกัน ไม่รอช้า เปิด Google ทันที พบว่า.....
ข้อกำหนดในการคัดชื่อแหล่งมรดกโลกออกจากบัญชีรายชื่อแหล่งมรดกโลก
คณะกรรมการฯ จะพิจารณาคัดชื่อแหล่งมรดกโลกออกจากบัญชีรายชื่อแหล่งมรดกโลกได้ตามระเบียบที่วางไว้ในกรณีที่
1. แหล่งมรดกนั้นได้รับความเสียหายจนสูญเสียลักษณะที่ชัดเจนของตัวเอง
2. แหล่งมรดกนั้นได้รับการบุกรุกทำลายโดยมนุษย์ระหว่างการพิจารณา หรือไม่ได้รับการ
จัดการตามมาตรการหรือโครงร่างแผนงานต่างๆ ตามเวลาที่ภาคีประเทศนั้นๆ เสนอต่อคณะกรรมการ ดังนั้นหากมีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นแก่แหล่งมรดกต่างๆ ทั้งที่ได้รับการพิจารณาหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาให้เข้าในบัญชีรายชื่อแหล่งมรดกโลก ประเทศภาคีที่เป็นเจ้าของจะต้องแจ้งให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ ทราบโดยทันที
เมื่อเลขานุการฯ ได้รับแจ้งถึงความเสียหายที่มีต่อแหล่งมรดกนั้นๆ (ไม่ว่าจะโดยทราบจากประเทศภาคี หรือจากแหล่งข้อมูลใดก็ตาม) ก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ กับประเทศภาคี และจะแจ้งให้คณะทำงานตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม (ยกเว้นแต่มีความเห็นจากประธาน ฯ ว่า ไม่ควรดำเนินการพิจารณาต่อไป รวมทั้งขอความเห็นจากองค์การที่ปรึกษาต่างๆ คือ ICOMOS และ IUCN และ ICCROM (The International Center for the Study of the Preservation and Restoration of Cultural Property in Rome) เพื่อมอบให้คณะทำงานนำไปประกอบการพิจารณาต่อไป
ในที่สุดคณะกรรมการฯ จะตรวจสอบข้อมูลและความเห็นของคณะทำงาน และจะพิจารณาออกเสียงโดยถือตามเสียง 2 ใน 3 ของที่ประชุม ทั้งนี้ การพิจารณาคัดชื่ออกดังกล่าว จะต้องเปิดโอกาสให้ประเทศภาคีนั้นๆ ได้ให้เหตุผลและตอบคำถามต่างๆ ร่วมด้วย และต้องผ่านการตรวจสอบการมีลักษณะทางธรรมชาตินั้นๆ อย่างแท้จริง
แล่ว.....แล้ว....อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ของประเทศไทยของเราล่ะ เป็นเช่นไรหนอ....โดยทาง ทาง ดร.ทรงธรรม[i] สุขสว่าง ได้เอ่ยถึงประเด็นปัญหาถนนหมายเลข 304 ว่า “หลังจากปี 48 แล้วที่เราขึ้นทะเบียน มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า” ......และถนนหมายเลข 304 การทำถนนที่จะมีการขยายขึ้นไปเขาใหญ่มีประเด็นตั้งแต่ครั้งแรกที่เราไปขึ้นทะเบียนทางคณะกรรมการมรดกโลกก็ได้ให้ข้อเสนอแนะว่าเราควรจะทำทางสัตว์ข้ามบริเวณเขาใหญ่และทับลาน แต่ไทยศึกษาผลกระทบใช้เวลานานมาก ในปี 2554 ก็ยังไม่เสร็จ ทางคณะกรรมการมรดกโลกได้ท้วงติงมาเพิ่มเติมและบอกว่าน่าจะเสร็จได้แล้ว.. และผลการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่15มิถุนายน – 25 กรกฎาคม 2557 นี้ที่เมืองโดฮา ประเทศการตาร์ นี้ ยังคงขึ้นบัญชีเป็นพื้นที่มรดกโลก แต่ยังมีข้อปฏิบัติอีกหลายข้อที่ประเทศไทยจะต้องนำกลับมาแก้ไข ไม่เช่นนั้นอีกสองปีข้างหน้า พื้นที่มรดกโลกของประเทศไทยแห่งนี้อาจจะถูกขึ้นบัญชีเป็น “พื้นที่มรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย” หรืออาจจะถูกถอดถอนจากการเป็นมรดกโลก!!!!
เฮ๊ย!!!! หลุดเขาปักมาได้.....น้ำมันตกขีดแดง....ถึงบ้านทับลานพอดี...มีปั้มใหญ่...อยู่พอดี...หลายคนคงรู้จักอยู่แล้วที่กำลังเป็นที่ 1 ในประเทศไทย...นั่น!!!! ปั้ม ปตท.ครับท่าน....เพื่อนบอกว่า ...ขนาดบนเขามีทั้งปั้มน้ำมันและปั้มก๊าซ NGV ครับ!!!
สถานที่ : บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน
สิ่งที่สร้างความประหลาดใจมากยิ่งขึ้น คือ มีแหล่งท่องเที่ยวที่ทันสมัย เป็นโรงแรม แหล่ง คอมมูนิตี้มอลล์ (Community Mall) อีกด้วย...เห็นเป็นตึกสร้างเรียงรายสไตส์อิตาลีเสมือนเป็นต้นกำเนิดนวนิยาย โรมิโอ&จูเลียต โอ๊ย!!!! แม่นาคช่วยด้วย.... สถานที่แห่งนี้คือ เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน (Verona at Tublan)[ii] คาดว่า เนื้อที่ประมาณสัก 100 กว่าไร่ น่าจะได้ เจ้าเดอะ เวโรน่าฯ คือ ตระกูล “วีระกุล”
ที่สำคัญมันสถานที่ตั้งอยู่ของเดอะ เวโรน่าฯ อยู่ตรงข้ามกับ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลานพอดี แต่มีเส้นแบ่งกันคือ ถนนทางหลวง 304 ครับ!!!
เกิดอาการเศร้าสลดใจอย่างบอกมากที่สุด สถานประกอบการแห่งใหม่ที่ตั้งตรงข้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นการสร้างหลังจากที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 38 ไปแล้ว แต่สถานประกอบการแหล่งท่องเที่ยวนี้เปิดให้เที่ยวประมาณธันวา 2558 ครับ.......
สถานที่ : เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน
อนิจจา!!!!! คนไทย คิดอะไรกันอยู่หนอ...คิดว่า ผืนป่าเขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา น่าจะตกอยู่ใน “พื้นที่มรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย” ตามข้อ 1. แหล่งมรดกนั้นได้รับความเสียหายจนสูญเสียลักษณะที่ชัดเจนของตัวเอง เพราะว่า จากเดอะ เวโรน่าฯ ไปหอเอนปิซ่า จำลอง ก็ไม่ไกลกันครับผม สงสัยประเทศไทยคงตกเป็นเมืองขึ้นของอิตาลีหรือเปล่าหนอ.......
สถานที่ : หมู่บ้าน TOCANA
ว่าแล้ว......ถามเพื่อนว่า ....ไปซื้อพุทรานมสดกันที่ กทม.ดีกว่า ไหม? คิดว่า วันนี้คงไปไม่ถึงวังน้ำเขียวแน่นอน มติของเพื่อนๆ ว่า ไม่ไปกันแล้ว....เลี้ยวรถกลับไป กทม.กันดีกว่า....
โดย....ไม้เอก ปักธงชัย
ที่มา :
[i] ดร.ทรงธรรมสุขสว่าง ผู้เชี่ยวชาญการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า / ผู้อำนวยการสถาบันนวัฒกรรมอุทยานแห่งชาติพื้นที่คุ้มครองกรมอุทยาน ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ฟันธง” ทางช่อง NBT เรื่องเล่าจากราวป่า : “ร่วมปกป้องเขาใหญ่ไม่ให้หลุดจากมรดกโลก”
[ii] ตั้งอยู่ในอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นแหล่งช้อปปิ้ง จุดพักรถและพักผ่อนแห่ง ใหม่ของจังหวัดปราจีนบุรี โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองเวโรน่า แห่งแคว้นเวเนตโต้ ประเทศอิตาลี ต้นกำเนิดนวนิยาย โรมิโอ&จูเลียต อันเลื่องชื่อของโลก จึงก่อกำเนิดดินแดนแห่งรักในเมืองไทย กับเดอะเวโรน่าแอททับลาน ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา ที่มีอากาศ บริสุทธิ์อันดับ7 ของโลก เจ้าของ คือ คุณ มาโนช วีระกูล